วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2556

สวัสดี ครับทุกท่านวันนครูเลิมีข้อมูลดีดีมาฝากกันอีกแล้วนะครับ สำหรับในวันนี้ มีข้อมูลดีดีเกี่ยวกับการพัฒนาบุคลิกภาพ มาเล่าสู่กันฟังนะคัรบผมสำหรับการพัฒนาบุคลิกภาพที่ครูเลิฟศึกษานี้มีทั้ง หมด 7 วิธีด้วยกันซึ่งประกอบด้วย การพัฒนาองค์ต่างๆดังนี้



1. การมอง


         ทราบ ไหมคะว่า สายตาสามารถบอกถึงความรัก ความเกลียดชัง ความเมตตาปรานี ความโกรธแค้น ความเคารพนับถือ หรือความเหยียดหยาม ดูหมิ่นดูแคลนได้ ฉะนั้น เมื่อเราจะมองใคร เราจะต้องพยายามใช้สายตาด้วยความสุภาพเรียบร้อย ระวังในการใช้สายตาอย่าให้คนอื่นเกิดความเข้าใจผิดหรือรู้สึกติดลบได้


2. การแต่งกาย


         การ แต่งกายบ่งบอกความพิถีพิถันและเอาใจใส่ตัวเอง ช่วยทำให้คนคนหนึ่งดูดีหรือดูแย่ได้ ทุกครั้งที่เลือกเครื่องแต่งกายหรือ กำลังจะแต่งกาย ให้ต้องคำนึงถึงความสะอาดเรียบร้อย ถูกต้องและเหมาะสมกับกาลเทศะ แต่งกายให้พอดี อย่าให้มากเกินไปหรือน้อยเกินไปจนกลายเป็นน่าเกลียด


3. การพูด


         ต้อง มีศิลปะในการพูด พูดให้ชนะใจผู้ฟัง โดยจะต้องใช้คำพูดที่มีเหตุผล สุภาพ ไพเราะ มีน้ำเสียงชวนฟัง เสียงดังฟังชัด ฉะฉาน และใช้คำพูดที่เหมาะสมกับผู้ฟัง โดยคำนึงถึงวัย เพศ ระดับการศึกษา อาชีพ และความสนใจพิเศษของผู้ฟัง  ทั้งยังต้องคำนึงถึงสถานที่ เวลา และโอกาสด้วย


4. การเดิน


         ให้ เดินตัวตรง อกผายไหล่ผึ่งเพื่อให้ดูสง่า แต่ไม่ต้องถึงกับหลังตรงตัวแข็งเหมือนนักเรียน นายร้อย เดินให้มีท่าทางสง่าและเรียบร้อย เวลาเดินให้ก้าวเท้ายาวพอประมาณ และสอดคล้องกับเสื้อผ้าหรือรองเท้าที่สวมใส่ ว่าก้าแค่ไหนจึงดูคล่องแคล่วและปลอดภัย  ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียงดังจนเกินไป เพราะเสียงฝีเท้าจะไปรบกวนผู้อื่น ไม่เดินผ่ากลางผู้อื่นที่ยืนสนทนากันอยู่
ทฤษฎีการพัฒนาบุคลิกภาพ
การปรับปรุงคุณสมบัติที่จำเป็น  (SHEAF  Model) 
การปรับปรุงทัศนคติที่ถูกต้อง  (PEYSOF Model) 
การควบคุมอารมณ์  (EMOTIONS Model)



ทฤษฎีการเข้าพบลูกค้า
A – ATTITUDES        ทัศนคติ  คุณสมบัติ  และการควบคุมอารมณ์
P – PREPARATION   เตรียมตัวด้านร่างกาย  จิตใจ  และอารมณ์
P – PROBE                 ค้นหาผลประโยชน์ของลูกค้าที่เขาปรารถนามากที่สุด
R – RELEX                ผ่อนคลายการป้องกันตัวของเขา
O – OBTAIN               ทำให้เขาชอบและมั่นใจในตัวท่าน
A – AROUSE              ปลุกความสนใจของเขาในข้อเสนอของท่าน
C – CREATIVE          เปิดการเจรจาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
H – HANDLING         จัดการเรื่องกลไก
บุคคลิกภาพดี..ไม่มีโรค เริ่มต้นง่ายๆ

ท่านั่งและท่ายืนเพื่อสุขภาพที่ดีสำหรับคนทำงาน

จากหนังสือบุคลิกภาพดีไม่มีโรคโดยคุณมานพ ประภาชานนท์  กล่าวว่า ท่ายืนและท่านั่ง มีผลต่อสุขภาพคุณมากยิ่งคนทำงานบางครั้งเร่งรีบและมองข้ามความสำคัญกิจกรรม ที่เป็นกิจวัตรประจำวัน เช่น การนั่ง นอน ยืน เดิน ท่านั่งขับรถ ฯลฯซึ้งเหล่านี้ไม่ควรมองข้ามเพราะสามารถส่งผลทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา อาทิเช่น ปวดเมื่อยหลัง ปวดศรีษะ ซึ่งบางคนก็ต้องพึ่งพาหมอหรือยาแต่ความจริงแล้วถ้าเรารู้วิธีปฎิบัติบัติ ตัวอย่างถูกต้องและเหมาะสมโรคภัยไข้เจ็บก็จะลดน้อยลงและวันนี้ทางเรามีท่า ที่ถูกต้อเพื่อสุขภาพทมาฝากค่ะลองเช็คตัวเองไปพร้อมๆกันน่ะค่ะ


1.ท่านั่งทำงานกับโต๊ะ เก้าอี้และโต๊ะทำงานควรมีระดับความสูงที่พอเหมาะกับตัวเองและเลือกเก้าอี้ ควรที่จะสามรถปรับระดับความสูงได้เหมาะและหมุนได้หรือถ้าเป็นเก้าอี้ธรรมดา ก็ลองหาหาหมอนหรือผ้ารองเพื่อนั่งสบายและควรควรมีที่พักเท้า ส่วนแขนควรวางบนโต๊ะข้อศอกควรงอประมาณ70-80 องศา
2.ท่านั่งทำงานกับกับคอมพิวเตอร์ ควรวางแป้นพิมพ์ที่ให้ต่ำกว่าตัวที่วางจอคอมพิวเตอร์ให้แขนขนานอยู่แนวเดียว กับโต๊ะหากต้องพิมพ์งานควรหาขาตั้งวางต้นฉบับให้เอียงขึ้นในระดับสายตา
3.ท่านั่งเขียนหนังสือ ควรนั่งหลังตรงและถ้าคุณต้องนั่งเขียนหรืออ่านเป็นประจำก็ควรปรับระดับพื้นโต๊ะให้เอียงขึ้นพอเหมาะคอจะได้ไม่ต้องก้มมาก
และนี้เป็นอีก2ท่าที่นำมาฝากค่ะซึ่งก็สำคัญมากเช่นกัน



4.ท่ายืนบรรยาย และถ้างานของคุณต้องยืนพูดนานๆนั้น ควรมีเก้าอี้เตี้ยๆหรือวางที่วางเท้าเพื่อพักเท้าข้างใดข้างหนึ่งไว้สลับกัน ส่วนแขนจะวางบนแท่นที่พูดก็ได้




5.ท่านั่งขับรถ ควรจัดเก้าอี้นั่งอยู่ ใกล้พวงมาลัยพอควร เข่าและสะโพจะต้องอยู่ในท่างอและเท้าเหยียบเบรคจนสุด ปรับเบาะเอนไปข้างหน้าเล็กน้อยบริเวณพนักพิงควรมีที่รองเอว


ที่มา:จากหนังสือบุคลิกภาพดี
รูปภาพประกอบ:internet